นักลงทุนมือใหม่มักมองว่า “ทองคำ” คือแหล่งพักเงินที่ปลอดภัย ส่วน “น้ำมัน” คือสินทรัพย์อิงเศรษฐกิจโลก แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ตลาดของทั้งสองต่างมีความผันผวนที่น่าจับตามอง และอาจพาคุณกำไรหรือเจ็บหนักได้ในระดับเท่าๆ กัน ถ้าเข้าใจไม่ลึกพอ คำถามที่ว่า “ทองหรือน้ำมันผันผวนกว่ากัน” จึงไม่ได้มีคำตอบตายตัว ต้องมองจากหลายมิติ ทั้งสาเหตุของการขึ้นลง แนวโน้มระยะยาว ปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจ และบทบาทของสินทรัพย์ในตลาดโลก
น้ำมัน ราคาดีดแรงตามข่าวโลกและภูมิรัฐศาสตร์
ตลาดน้ำมันมีความผันผวนสูงจากการพึ่งพาปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสงคราม ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง การประชุมของกลุ่ม OPEC หรือแม้แต่ข่าวลือเรื่องการผลิตหรือลดกำลังการส่งออก ตัวอย่างที่ชัดเจนคือช่วงปี 2020 ที่ราคาน้ำมันดิ่งต่ำถึงขั้นติดลบจากผลกระทบโควิดทั่วโลก แล้วดีดกลับมาอย่างรวดเร็วในปีถัดมาเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว หรืออย่างในปี 2022-2024 ที่ราคาน้ำมันขึ้นลงแรงตามสงครามยูเครน ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และการผลิตของซาอุดีอาระเบีย น้ำมันจึงมักถูกเรียกว่า “สินทรัพย์ที่ขับเคลื่อนด้วยข่าว” และเหมาะกับสายเทรดที่รับความเสี่ยงได้สูง
ทองคำ ดูเหมือนนิ่ง แต่มีจังหวะเหวี่ยงหนักในบางช่วง
ทองคำแม้จะถูกมองว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” แต่ไม่ได้แปลว่าราคาจะนิ่งเสมอไป โดยเฉพาะในช่วงที่ดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลงแรง หรือเงินเฟ้อพุ่งไม่หยุด ราคาทองจะสะท้อนอารมณ์ของนักลงทุนโลกทันที ตัวอย่างชัดคือช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2008 ทองคำทะยานขึ้นต่อเนื่องจากความกลัวในตลาดเงิน หรือช่วงโควิดที่ความไม่แน่นอนทำให้ทองพุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่ อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของทองมักสะสมแบบช้าๆ ไม่หวือหวาในวันเดียวเหมือนน้ำมัน แต่ถ้าเทียบเป็นกราฟรายเดือนหรือรายไตรมาส จะเห็นว่าทองเองก็มีจังหวะเหวี่ยงที่หนักได้ไม่น้อย
อะไรคุมราคาได้มากกว่ากัน
ราคาทองคำมักสัมพันธ์กับ “ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ” และ “ดอกเบี้ย” เป็นหลัก หากดอลลาร์แข็ง ทองมักจะอ่อน หรือหากเฟดขึ้นดอกเบี้ย ทองมักจะปรับลงเพราะต้นทุนถือครองสูงขึ้น ไม่มีผลตอบแทน ส่วนน้ำมันขึ้นอยู่กับ ดีมานด์อุปทานล้วนๆ ทั้งจากอุตสาหกรรม ยานพาหนะ การผลิตพลังงาน และการส่งออก/import ระหว่างประเทศ ดังนั้นสิ่งที่มากระทบราคาน้ำมันจึงหลากหลายและคาดการณ์ยากกว่า
ใครเหมาะกับทอง ใครเหมาะกับน้ำมัน
- ทองเหมาะกับนักลงทุนระยะยาว ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ค่าเงิน หรือวิกฤตเศรษฐกิจ
- น้ำมันเหมาะกับนักเทรดสายวิเคราะห์ข่าวเร็ว ชอบความตื่นเต้นของการเคลื่อนไหวแบบรายวัน
แต่ทั้งสองอย่างถ้าใช้ผิดจังหวะก็เจ็บได้พอๆ กัน ดังนั้นอย่ามองเพียงแค่ราคาว่าวันนี้ขึ้นหรือลง ให้มองว่า “พื้นฐานมันเปลี่ยนแปลงเพราะอะไร” และกลยุทธ์ลงทุนของคุณเหมาะกับมันหรือไม่
สรุป
ทั้งทองและน้ำมันต่างมีความผันผวนในแบบของตัวเอง น้ำมันไวต่อข่าวและปัจจัยการผลิตระดับโลกมากกว่า ขณะที่ทองคำสะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างลึกซึ้ง การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ใด จึงไม่ใช่เรื่องของ “อะไรนิ่งกว่า” หรือ “อะไรหวือหวากว่า” แต่ขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร รับความเสี่ยงได้แค่ไหน และเข้าใจความเคลื่อนไหวของมันได้ลึกแค่ไหนต่างหาก.