m8winvip.com

ความรู้ เรื่องเล่า สาระน่ารู้ทั่วทุกมุมโลก

รหัสไปรษณีย์มาจากไหน ใครเริ่มใช้ก่อน และระบบนี้พาโลกเปลี่ยนอย่างไร

แม้จะเป็นแค่ตัวเลขไม่กี่หลัก แต่ “รหัสไปรษณีย์” คือหนึ่งในระบบเบื้องหลังที่ทำให้การขนส่งจดหมายและพัสดุทั่วโลกแม่นยำขึ้นอย่างมหาศาล ทุกวันนี้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่ที่เรากรอกโดยอัตโนมัติ แต่จุดเริ่มต้นของระบบนี้มีความน่าสนใจมากกว่าที่คิด และเต็มไปด้วยการวางแผนอย่างมีเหตุผล

ต้นกำเนิดของรหัสไปรษณีย์มาจากไหน

ประเทศแรกที่เริ่มใช้ระบบรหัสไปรษณีย์อย่างเป็นทางการคือ เยอรมนี ในปี 1941 ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีเป้าหมายเพื่อแบ่งพื้นที่ไปรษณีย์ออกเป็นเขตๆ เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์สามารถแยกประเภทจดหมายได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาคัดแยกซ้ำซ้อนในเขตเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่นและถนนซับซ้อน หลังจากนั้นไม่นาน ประเทศอื่นๆ ก็เริ่มนำแนวคิดนี้ไปใช้ เพราะเห็นประโยชน์ของระบบตัวเลขที่สามารถลดข้อผิดพลาดจากการอ่านชื่อเมืองหรือย่านที่อาจสะกดต่างกัน หรือฟังผิดในโทรเลขหรือคำบอก

อังกฤษเป็นผู้จุดกระแสหลักในเวทีโลก

แม้เยอรมนีจะเป็นต้นคิด แต่ประเทศที่ผลักดันรหัสไปรษณีย์ให้กลายเป็นมาตรฐานสากลจริงๆ คือ สหราชอาณาจักร ที่เริ่มพัฒนาโครงสร้างของรหัสไปรษณีย์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 แต่ประกาศใช้ระบบ “Postcode” แบบเต็มรูปแบบทั่วประเทศในปี 1959 ลักษณะของรหัสในอังกฤษไม่ได้มีแค่ตัวเลข แต่ผสมตัวอักษรและตัวเลข เช่น SW1A 1AA ซึ่งสามารถบอกได้อย่างละเอียดถึงทั้งเมือง ย่าน และถนน ระบบนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ประเทศต่างๆ พัฒนาโมเดลของตัวเองต่อมา

เมื่อระบบนี้แพร่กระจายทั่วโลก

ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เปิดตัวระบบ ZIP Code ในปี 1963 โดยคำว่า ZIP มาจาก “Zone Improvement Plan” เพื่อเพิ่มความเร็วและความแม่นยำในการคัดแยกไปรษณีย์ในประเทศขนาดใหญ่ รหัสที่ใช้จะเป็นตัวเลข 5 หลัก และต่อมามีการขยายเป็น 9 หลักเพื่อระบุพื้นที่ย่อยลงไปอีก จากนั้นประเทศทั่วโลกก็ทยอยปรับใช้ระบบรหัสไปรษณีย์ในรูปแบบของตัวเอง เช่น ญี่ปุ่นใช้ตัวเลข 7 หลัก ฝรั่งเศสใช้ 5 หลัก แคนาดาผสมตัวอักษรและตัวเลข เป็นต้น

รหัสไปรษณีย์ในประเทศไทยเริ่มต้นเมื่อไหร่

ประเทศไทยเริ่มใช้ระบบรหัสไปรษณีย์อย่างเป็นทางการในปี 2526 หรือ ค.ศ.1983 โดยใช้รูปแบบรหัส 5 หลัก เช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่ในโลก ตัวเลข 2 ตัวหน้าแสดงถึงจังหวัดหรือพื้นที่ใหญ่ ตัวเลข 3 ตัวท้ายใช้ระบุเขต อำเภอ หรือที่ทำการไปรษณีย์ย่อย เป้าหมายคือเพื่อช่วยให้การคัดแยกจดหมายและพัสดุในแต่ละเขตเกิดความแม่นยำ ไม่หลง ไม่วน และจัดส่งถึงมือผู้รับได้รวดเร็วขึ้น

เบื้องหลังการจัดรหัสคือภูมิศาสตร์และข้อมูลจริง

การออกแบบรหัสไปรษณีย์ไม่ได้กำหนดแบบสุ่ม ทุกประเทศใช้ข้อมูลภูมิศาสตร์ ความหนาแน่นของประชากร ปริมาณการส่งของ และขอบเขตของบริการไปรษณีย์เป็นพื้นฐานในการแบ่งเขต เช่น พื้นที่ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ จะมีรหัสหลากหลาย เนื่องจากมีปริมาณไปรษณีย์สูง ในขณะที่จังหวัดเล็กๆ อาจใช้รหัสเดียวครอบคลุมหลายอำเภอ

รหัสไปรษณีย์มีผลอะไรต่อธุรกิจและการตลาด

ปัจจุบันรหัสไปรษณีย์ไม่ได้ใช้แค่ในวงการไปรษณีย์ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในด้านโลจิสติกส์ การกระจายสินค้า ไปจนถึงการวางแผนทำการตลาดเชิงพื้นที่ (Geo Marketing) ธุรกิจสามารถใช้รหัสไปรษณีย์ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า กำหนดแคมเปญโปรโมชันตามเขต หรือวางจุดให้บริการให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยสำคัญในระบบ e-commerce เพื่อป้องกันการจัดส่งผิดหรือข้ามเขต

สรุป

รหัสไปรษณีย์อาจดูเหมือนเพียงตัวเลขประกอบที่อยู่ แต่เบื้องหลังคือระบบที่มีประวัติยาวนานและส่งผลต่อการพัฒนาการคมนาคม การสื่อสาร และธุรกิจทั่วโลก เยอรมนีคือประเทศแรกที่เริ่มใช้แนวคิดนี้ ในขณะที่อังกฤษและสหรัฐฯ เป็นผู้ขยายระบบนี้ให้กลายเป็นมาตรฐานสากล ปัจจุบันรหัสไปรษณีย์มีบทบาทสำคัญต่อทั้งโลจิสติกส์ การตลาด และการพาณิชย์ดิจิทัล ที่ช่วยให้ทุกสิ่งเดินทางถึงเป้าหมายได้ตรงจุดและตรงเวลา

ที่มา : https://xn--k3cik3abbb2cgj0etczlg3j.com/