m8winvip.com

ความรู้ เรื่องเล่า สาระน่ารู้ทั่วทุกมุมโลก

How to remove tattoos without scars

ไม่อยากเจ็บตัว! เปิดวิธีลบรอยสัก แบบไหนปลอดภัย ไร้แผลเป็น?

เคยไหม? สักไปแล้วไม่ถูกใจ อยากลบก็กลัวเจ็บ กลัวเป็นแผลเป็น ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม! แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะวันนี้เราจะมา เปิดวิธีลบรอยสัก แบบไหนปลอดภัย ไร้แผลเป็น ให้คุณบอกลา “รอยสัก” ที่ไม่ต้องการ พร้อมกลับมามั่นใจ โชว์ผิวสวยไร้กังวลอีกครั้ง!

ก่อนจะลบ ต้องเข้าใจ! รู้ลึกเรื่องรอยสัก

รอยสัก เกิดจากการฝังเม็ดสีลงไปในชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นชั้นผิวที่ลึกลงไป ทำให้ติดทน และลบออกได้ยาก ดังนั้น การลบรอยสัก จึงต้องใช้เทคโนโลยีที่สามารถเข้าไปทำลายเม็ดสีเหล่านี้ให้แตกตัว จนร่างกายสามารถขับออกได้เอง

วิธีลบรอยสัก มีอะไรบ้าง? แบบไหนปลอดภัย ไร้แผลเป็น?

1. เลเซอร์ลบรอยสัก (Laser Tattoo Removal)

การใช้เลเซอร์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีความปลอดภัยสูงและลดโอกาสเกิดแผลเป็น เลเซอร์ทำงานโดยการยิงคลื่นแสงความถี่สูงไปยังเม็ดสีในชั้นผิว เม็ดสีจะถูกทำลายและถูกขับออกจากร่างกายตามกระบวนการธรรมชาติ โดยทั่วไปอาจต้องทำหลายครั้งขึ้นอยู่กับความเข้มของสีและขนาดของรอยสัก

Laser Tattoo Removal

ข้อดี

  • ประสิทธิภาพสูง เห็นผลชัดเจน
  • ปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • โอกาสเกิดแผลเป็นน้อย เมื่อเทียบกับวิธีอื่น
  • สามารถลบได้หลายสี แต่อาจจะใช้จำนวนครั้งแตกต่างกัน

ข้อจำกัด

  • อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย คล้ายโดนหนังยางดีด (สามารถใช้ยาชาแบบทาหรือฉีดเพื่อบรรเทาอาการ)
  • ต้องทำหลายครั้ง ห่างกันประมาณ 4-8 สัปดาห์
  • ราคาสูงกว่าวิธีอื่น
  • อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น รอยแดง บวม ตุ่มน้ำใส ซึ่งจะหายไปเองในระยะเวลาไม่นาน

2. การผ่าตัดลบรอยสัก (Surgical Removal)

วิธีนี้เหมาะสำหรับรอยสักขนาดเล็กหรือรอยสักที่ต้องการลบออกอย่างรวดเร็ว โดยแพทย์จะทำการตัดผิวหนังที่มีรอยสักออก และเย็บปิดแผล วิธีนี้มีความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นสูง จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลบรอยสักขนาดเล็กที่อยู่ในบริเวณผิวหนังที่สามารถเย็บปิดได้ง่าย

Surgical Removal

ข้อดี

  • ลบรอยสักออกได้ในครั้งเดียว

ข้อจำกัด

  • เสี่ยงเกิดแผลเป็นสูง เหมาะกับรอยสักขนาดเล็ก และอยู่ในตำแหน่งที่ซ่อนเร้นได้
  • เจ็บ และต้องพักฟื้นนาน
  • ไม่สามารถลบรอยสักขนาดใหญ่ได้

3. การกรอผิว (Dermabrasion)

เป็นการลบรอยสักโดยใช้เครื่องมือกรอผิวหนังชั้นบนออก ซึ่งเม็ดสีของรอยสักที่อยู่ในชั้นผิวจะถูกกำจัดไปพร้อมกับผิวที่ถูกกรอออก วิธีนี้อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดและมีโอกาสเกิดแผลเป็นหรือรอยแดงได้

ข้อดี

  • ราคาถูกกว่าเลเซอร์

ข้อจำกัด

  • เสี่ยงเกิดแผลเป็นสูง
  • เจ็บ และใช้เวลาพักฟื้นนาน
  • อาจลบรอยสักออกได้ไม่หมด
  • ไม่เหมาะกับรอยสักขนาดใหญ่ หรือรอยสักที่อยู่ลึก

4. การลบรอยสักด้วยน้ำยาเคมี (Chemical Peels)

วิธีนี้ใช้สารเคมีที่มีความเข้มข้นสูงเพื่อทำลายชั้นผิวที่มีรอยสัก เม็ดสีจะค่อย ๆ หลุดลอกออกไปพร้อมกับผิวชั้นนอก วิธีนี้ไม่เป็นที่นิยมมากนักเนื่องจากมีความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นสูง

Chemical Peels

ข้อดี

  • ราคาถูก

ข้อจำกัด

  • เสี่ยงเกิดแผลเป็น และรอยดำสูง
  • อาจระคายเคืองผิว และเกิดการอักเสบ
  • ประสิทธิภาพต่ำ อาจลบรอยสักออกได้ไม่หมด
  • ไม่เหมาะกับรอยสักขนาดใหญ่

5. ครีมลบรอยสัก

ครีมลบรอยสักเป็นวิธีที่หลายคนสนใจเพราะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของครีมลบรอยสักยังไม่เป็นที่ยืนยันแน่ชัด และอาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล ซึ่งผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่ากับวิธีการอื่น

Tattoo removal cream

ข้อดี

  • หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง

ข้อจำกัด

  • ประสิทธิภาพต่ำ ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าได้ผลจริง
  • อาจทำให้เกิดการระคายเคือง หรือแพ้ได้
  • อาจเสียเงินเปล่า

สรุปแล้ว วิธีไหนดีที่สุด?

การลบรอยสักที่ปลอดภัยและมีโอกาสเกิดแผลเป็นน้อยที่สุด  เมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ คือการใช้เลเซอร์ลบรอยสัก (Laser Tattoo Removal) เนื่องจากเป็นวิธีที่ทันสมัยและได้รับการยอมรับจากแพทย์ผิวหนัง หรือหากต้องการลบรอยสักอย่างเร่งด่วน วิธีการผ่าตัดก็อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงเรื่องแผลเป็น สำหรับผู้ที่ต้องการทดลองวิธีเบื้องต้นอย่างครีมลบรอยสักก่อนก็ได้เช่นกัน แต่ควรศึกษาและเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากแหล่งที่เชื่อถือได้ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ด้านผิวหนังก่อน เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการลบรอยสัก

ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากเสี่ยงแผลเป็น เลือก “เลเซอร์” และเลือกทำกับ “แพทย์” โดยตรง เพื่อผิวสวยไร้รอยสัก