Tech

AI ที่ไม่ใช่แค่คำพูด การประยุกต์ใช้ Generative AI เพื่อสร้างสรรค์และแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน

ปัญญาประดิษฐ” หรือ AI ภาพที่เรามักนึกถึงคือคอมพิวเตอร์ที่ฉลาดเกินมนุษย์ในหนังไซไฟ แต่ในวันนี้ AI ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเทคโนโลยีที่เรียกว่า Generative AI หรือ AI เชิงสร้างสรรค์ ซึ่งไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อคิดวิเคราะห์เพียงอย่างเดียว แต่สามารถสร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ หรือแม้กระทั่งดนตรี

Generative AI คืออะไร?

ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุด Generative AI คือ AI ที่เรียนรู้จากข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างผลงานใหม่ที่คล้ายคลึงกับข้อมูลต้นฉบับ ตัวอย่างที่เรารู้จักกันดีก็คือ ChatGPT ที่สามารถเขียนบทความ, แต่งกลอน, หรือแม้แต่เขียนโค้ดได้ตามคำสั่ง หรือโปรแกรมสร้างภาพอย่าง Midjourney และ DALL-E ที่สามารถเปลี่ยนคำบรรยายสั้น ๆ ให้กลายเป็นรูปภาพที่สวยงามและแปลกตาได้ภายในไม่กี่วินาที

เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ได้ทำงานเหมือนเครื่องจักรที่ทำตามคำสั่งแบบตรงไปตรงมา แต่พวกมันเรียนรู้ความสัมพันธ์และรูปแบบของข้อมูล เช่น เรียนรู้ว่าการเขียนบทความที่ดีต้องมีโครงสร้างอย่างไร หรือการสร้างภาพวิวทิวทัศน์ต้องมีองค์ประกอบใดบ้าง เมื่อเราป้อนคำสั่ง (Prompt) เข้าไป AI ก็จะนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลงานใหม่ที่น่าทึ่ง

ยกระดับชีวิตและธุรกิจด้วย Generative AI

แม้จะฟังดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริง ๆ แล้ว Generative AI ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพในชีวิตประจำวันของเราแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ

1. การสร้างสรรค์เนื้อหา

สำหรับนักการตลาด, นักเขียน, หรือแม้แต่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก Generative AI คือเครื่องมือที่ช่วยประหยัดเวลาได้อย่างมหาศาล คุณสามารถใช้ AI ช่วยระดมสมองเพื่อหาไอเดียบทความใหม่ ๆ, สร้างสคริปต์สำหรับวิดีโอสั้น, หรือแม้แต่เขียนคำบรรยายสินค้าที่ดึงดูดใจ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ AI ช่วยออกแบบภาพประกอบสำหรับโพสต์บนโซเชียลมีเดียได้อย่างรวดเร็ว ทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์เนื้อหาคุณภาพสูงได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการออกแบบหรือการเขียนแบบมืออาชีพ

2. การเรียนรู้และพัฒนาทักษะ

AI สามารถเป็นเหมือนครูสอนพิเศษส่วนตัวได้ด้วย คุณสามารถใช้มันเพื่อสรุปเนื้อหาที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย, ถามคำถามเพื่อทบทวนความรู้, หรือแม้แต่ให้มันสร้างโจทย์ฝึกหัดตามระดับความยากที่คุณต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ AI เพื่อฝึกฝนทักษะการเขียนหรือการใช้ภาษาต่างประเทศ โดยให้ AI ตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดให้คุณได้ทันที

3. การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ในสถานการณ์ที่เราต้องการคำตอบอย่างรวดเร็ว Generative AI คือตัวช่วยชั้นยอด เช่น เมื่อคุณต้องการวางแผนการเดินทางไปต่างประเทศ คุณสามารถใช้ AI เพื่อสร้างแผนการท่องเที่ยวที่ละเอียดพร้อมงบประมาณคร่าว ๆ ได้ภายในไม่กี่นาที หรือเมื่อคุณกำลังมีปัญหาในการเขียนโค้ด Generative AI ก็สามารถช่วยตรวจสอบโค้ดและแนะนำวิธีแก้ไขให้คุณได้เช่นกัน

ข้อควรระวังและอนาคตของ Generative AI

แม้ว่า Generative AI จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดและประเด็นที่ต้องพิจารณาเช่นกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือข้อมูลที่ AI สร้างขึ้นอาจไม่ถูกต้องเสมอไป หรือบางครั้งอาจมีการบิดเบือนข้อมูล ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนนำไปใช้งานจริง

นอกจากนี้ การใช้ Generative AI ยังต้องคำนึงถึงเรื่องลิขสิทธิ์และความเป็นต้นฉบับของงานสร้างสรรค์ด้วย เราควรใช้ AI ในฐานะ “ผู้ช่วย” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ใช่ปล่อยให้ AI ทำทุกอย่างแทนเราทั้งหมด เพราะท้ายที่สุดแล้ว ความคิดสร้างสรรค์และมนุษย์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลงานมีคุณค่า

ในอนาคต Generative AI จะพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้งและเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพยนตร์จากคำสั่ง, การสร้างเกมที่ปรับเปลี่ยนได้ตามผู้เล่น, หรือการช่วยนักวิทยาศาสตร์ในการคิดค้นยาตัวใหม่ การทำความเข้าใจและเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราก้าวทันการเปลี่ยนแปลงและสามารถใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างชาญฉลาด